ปัจจุบันกีฬามวยไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและมีชื่อเสียงอย่างแพร่หลาย ชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยล้วนลิสต์เอาไว้ในสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาถึงแดนสยาม คือการเข้าไปดูมวยไทยถึงขอบเวที นอกจากนั้นหลาย ๆ คน ยังหลงใหลในศิลปะป้องกันตัวประจำชาติของเราถึงขั้นฝึกฝนอย่างจริงจัง และมีการขึ้นสังเวียนฟาดฟันกับนักมวยชาติต้นตำรับให้เห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
สิ่งที่ทำให้มวยไทยโด่งดัง และได้รับความนิยมนั้น เป็นเพราะเสน่ห์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นมากกว่าแค่ศิลปะการต่อสู้ แต่คือวัฒนธรรมประจำชาติ และเป็นวิถีชีวิตที่อยู่คู่คนไทยมาหลายร้อยปี ส่วนปัจจัยหลัก ๆ มีอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ที่นี่
การรำมวย (ไหว้ครู)
การไหว้ครูรำมวยคือพิธีศักดิ์สิทธิ์ก่อนการชกทุกครั้งของมวยไทย เพราะเป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณและเป็นการแสดงความเคารพต่อครูมวย ซึ่งพิธีนี้มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในการไหว้ครูจะมีการสวมมงคลขณะร่ายรำเนื่องจากถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์
ส่วนขั้นตอนนั้นนักมวยจะเริ่มจากท่านั่ง กราบเบญจางคประดิษฐ์ คุกเข่าถวายบังคม ขึ้นพรหมนั่ง-ยืนแตกต่างกันไปตามแต่ละค่าย หรือสำนัก รวมทั้งอาจมีการบริกรรมคาถาตามความเชื่อของแต่ละบุคคล พร้อมกับมีวงปี่กลองที่ประกอบด้วย ปี่ชวา, กลองแขก และฉิ่ง บรรเลงเพลงสะหระหม่าแขกระหว่างการรำมวย
สำหรับท่าที่นิยมในการไหว้ครูคือ พรหมสี่หน้า, หงส์เหิน, ยูงฟ้อนหาง, สอดสร้อยมาลา, พระรามแผลงศร, พยัคฆ์ตามกวาง, เสือลากหาง, สาวน้อยประแป้ง, ลับหอกโมกขศักดิ์ และกวางเหลียวหลัง ฯลฯ
ขณะเดียวกัน การไหว้ครูรำมวยนอกจากจะเป็นการแสดงถึงความกตัญญูต่อครูมวย ยังมีประโยชน์ในแง่อื่น ๆ อีกหลายด้าน ทั้งเป็นการอบอุ่นร่างกาย, ปลุกขวัญกำลังใจทำสมาธิ, ข่มขวัญคู่ต่อสู้, ระลึกถึงสิ่งสำคัญที่ครูมวยฝึกสอนมา รวมทั้งเป็นการสำรวจพื้นที่บนเวทีในเบื้องต้นอีกด้วย
แม่ไม้มวยไทย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้มวยไทย มีความน่าสนใจมากกว่าศิลปะการต่อสู้ชนิดอื่น ๆ นั่นก็คือกระบวนท่าที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์สืบต่อกันมาช้านาน ซึ่งเรียกว่าแม่ไม้มวยไทย โดยผู้ฝึกมวยไทยต้องเรียนรู้กระบวนท่าพื้นฐานเหล่านี้ และปฏิบัติให้ได้ก่อนจะก้าวไปสู่การฝึกลูกไม้มวยไทยหรือกระบวนท่าพลิกแพลงเพื่อรับมือคู่ต่อสู้ได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับแม่ไม้มวยไทยนั้นแบ่งออกเป็น 15 ไม้ ดังนี้ สลับฟันปลา, ปักษาแหวกรัง, ชวาซัดหอก, อิเหนาแทงกริช, ยอเขาพระสุเมรุ, ตาเถรค้ำฝัก, มอญยันหลัก, ปักลูกทอย, จระเข้ฟาดหาง, หักงวงไอยรา, นาคาบิดหาง, วิรุฬหกกลับ, ดับชวาลา, ขุนยักษ์จับลิง และ หักคอเอราวัณ ซึ่งในปัจจุบันท่าที่เราได้ยินอยู่บ่อย ๆ คือ มอญยันหลัก, จระเข้ฟาดหาง และหักงวงไอยรา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเราอาจไม่ค่อยได้เห็นนักมวยใช้กระบวนเหล่านี้บนเวทีมากนัก เนื่องจากต้องกะจังหวะให้เหมาะสม หากพลาดก็เป็นการเปิดช่องว่างให้อีกฝ่ายโจมตี ส่วนคู่ต่อสู้เองก็มีความระมัดระวังไม่ให้ตัวเองโดนแม่ไม้มวยไทยเล่นงานเช่นกัน
บรรยากาศการชก
ปัจจัยสุดท้ายที่ทำให้มวยไทยได้รับความนิยม นั่นก็คือบรรยากาศรอบสังเวียน ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยง, ครอบครัวของนักมวย หรือเพื่อนร่วมค่ายที่ตะโกนเชียร์อย่างคึกคักตามการออกอาวุธของนักมวย อย่างที่เราเคยได้ยินกัน หรือบรรดาเซียนมวยที่ออกท่าออกทางระหว่างการชก รวมทั้งนักพากย์ที่จังหวะจะโคนเร้าใจช่วยปลุกเร้าอารมณ์คนดูให้คล้อยตาม
บรรยากาศนั้นรวมไปถึงการชกบนเวทีที่ดุเดือด เร้าใจ และมีโอกาสพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ทุกวินาที เพราะมวยไทยนั้นมีอาวุธหลากหลายทั้งหมัด แข้ง เท้า เข่า ศอก แต่ละอย่างสามารถทำให้คู่ต่อสู้น็อกได้ทุกเมื่อ และองค์ประกอบสุดท้ายที่ทำให้ทุกอย่างกลมกล่อมนั่นก็คือวงปี่กลองที่บรรเลงเพลงประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ เรียกว่าได้ยินที่ไหนก็รู้ทันทีว่ากำลังมีมวยไทยอยู่ที่นั่น